Saturday, April 01, 2006

หมายเหตุถึงพี่ชาย

อยากเขียนมาหาพี่นานมากแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าพี่ประภาสจะหน่วงอายุลงมาร้องเพลงกับผมได้รึเปล่า ...
ผมชอบเพลง "ปล่อยวาง" มากๆ ร้องเกะฯกี่ทีเพื่อนก็ว่าเหมือน playground มาร้องเองเลย ...

คำถามนะครับ (ออกจะไม่เกี่ยวกะที่เกริ่นมาเลย) ทั้งๆที่ร้องได้ร้องดี ทำไมผมยัง "ปล่อยวาง" ไม่ได้สักทีล่ะเนีย

....

ตอบคุณหมายเหตุถึงพี่ชายนะครับ

เคยไหมครับเวลายืนกลางสนามฟุตบอลแล้วลมมันแรง หนาว เลยต้องไปยืนหลบอยู่ตามมุมตึก

แต่ก็กลายเป็นว่าหนาวขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะเผอิญเจอทางลมเข้า!

ทำไมไม่รู้ อ่านจดหมายของคุณ ผมรู้สึกได้ว่าในทีเล่นทีล้อของคุณหมายเหตุถึงพี่ชาย มันมีอะไรลึกซึ้งอยู่ระหว่างบรรทัด

กับเรืื่องคาราโอเกะเนี่ย จะว่าไม่สันทัดก็ไม่ใช่ทีแล้ว ผมชอบพาเพื่อนน้องพี่ลุงปู่หลานไปสนุกกันบ่อยๆ ... จริงอยู่ playground กับเพลงปล่อยวาง อาจจะไม่เข้าข่ายวัยเลยรุ่นอย่างผม แต่จะเหมาว่าไม่รู้จักเลยก็ไม่ได้
ถ้าจะให้พูดตรงๆ คือ ไม่ว่าไปคาราโอเกะกี่ครั้ง ต้องมีคนร้องเพลงนี้!

ผมว่าคนแต่งเพลงนี่เค้าเข้าใจคิดนะครับ ตั้งชื่อเพลงประชดความรู้สึก เหมือนจับน้ำกับน้ำมันมาเขย่าปนกัน ทีนี้พอวางขวดน้ำลง ไม่นานก็เกิดการตกตะกอน แยกชั้นกันอีกแล้วจริงไหมครับ

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่โดนคาดโทษไว้กับเพลงๆ หนึ่ง แต่คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเป็นเพลงอะไร ไม่งั้นเจ้าของเพลงคงได้จับผมไปเซ็นสัญญาแน่ๆ ... สนุกครับ ร้องแล้วเพื่อนเฮ หลานฮา แต่แล้ววันนึงความรู้สึกคันอยากลองมันก็เกิดขึ้น

ผมเปลี่ยนไปร้องเพลงอื่นครับ!

หลายคนคงเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น ... แปลกครับ ไม่มีเสียงตอบรับในทันที แต่แล้วเสียงปรบมือก็ค่อยๆ ดังขึ้น เพื่อนๆ ในวันนั้นแปลกใจไม่ต่างอะไรกับผม และในที่สุดผมทำให้เพื่อนได้จำผมในมุมใหม่ๆ
ไม่ได้หมายความว่าผมกะเพลงเก่าเพลงนั้นจะแยกทางกันไปเหมือนน้ำกับน้ำมันนะครับ เพียงแต่บางครั้งการวางขวดน้ำกับน้ำมันไว้เฉยๆ แล้วนั่งมองมันห่างๆ อาจจะพบว่ามันสวยไปอีกแบบก็ได้

เหมือนกับการยืนหลบลมแหล่ะครับ

บางครั้งยืนกลางสนามฟุตบอล แล้วมีแดดจัดๆ เป็นเพื่อนคุย ก็ช่วยให้เราอุ่นไปอีกแบบ!

6 Comments:

Anonymous Anonymous said...

อ่านแล้ว.....งานเขียนคุณเท่มาก master ushey!!!

4:30 PM  
Anonymous Anonymous said...

ใช่พี่ถูกต้องที่สุดเลยพี่ชี่ .. ผมว่ามันก็เหมือนกับหนังหลังๆเรื่อง(โดยเฉพาะของเป็นเอก)ที่ตอนจบมันไม่ happy ending เสมอไป บางทีมันก็ทิ้งไว้ให้เราคิด หรือบางที มันก็ไม่ได้จบแบบที่เราต้องการ แต่บางทีผมว่าถ้ามันจบแบบสมบูรณ์มันอาจจะไม่สวยงามเหมือนที่มันจบห้วนๆแบบนี้ก็ได้เนอะว่าปะ?

4:34 PM  
Anonymous Anonymous said...

เพนกวินบ้างเห๊อะ

5:33 PM  
Anonymous Anonymous said...

ผมว่าต่อให้เปลี่ยนมาร้องเพลงอื่นๆอีกมากมาย(ไม่ใช่ของเฉลียงนะคับ)พี่ก็ยังหลุดออกมาจากปล่อยวางไม่ได้หรอก .... อารมณ์ที่ทำให้คนเราอยากร้องเพลงไหนขึ้นมามากๆ หรืออยู่ดีๆก็น้ำตาไหลเพราะเพลงๆนึงโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งหมดนี้ ก็ล้วนเกิดจากการที่เรายังไม่อาจปล่อยวางบางอย่างออกไปจากชีวิตได้...พี่ชี่ช่วยบอกวิธีถือมันต่อไปให้มีความสุขให้มากที่สุดให้หน่อยดิ...จะรอติดตามคำชี้แนะนะคับ...

12:09 AM  
Anonymous Anonymous said...

บางทีการปล่อยวางได้ ไม่ได้หมายถึงว่า เราไม่คิดถึงมันอีกต่อไปแล้ว แต่ปล่อยวางน่าจะหมายถึงการที่ เราคิดถึงมัน อยากย้อนกลับไป อยากทำยังงู้น อยากทำยังงี้ แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ตัดใจไม่คิดจะทำอะไร...

1:43 PM  
Anonymous Anonymous said...

ถึงคุณพี่ชาย(ชี่)
ถ้าลมที่สนามมันทำให้คุณรู้สึกหนาว ลองรวบรวมความกล้าและพลังพาบอลฝ่าความหนาวนั้นดูสิครับ ใครจะไปรู้ว่าคุณอาจจะเป็นคนยิงประตูก็เป็นได้! ถึงมันจะไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร

อย่างน้อยความอบอุ่นจากเพื่อนในสนามอีก10ก็น่าจะช่วยแก้หนาวได้ไม่มากก็น้อย

1:28 PM  

Post a Comment

<< Home