Saturday, January 10, 2009

arrival



สองทุ่มกว่า เครื่องจากสายการบิน China Airlines เทียบท่าสนามบิน SFO ...ชายไทยตัวท้วมสูงในเสื้อหนังสีดำ ยืนรอใครบางคน...ยี่สิบนาทีผ่านไป กว่าที่เอกจะโผล่หน้ามารับ คุ้นๆอยู่ว่าเคยเจอเอกสมัยมหาลัย หน้าตาเหมือนอาทิตย์ ริว ผมเลยพกนิตยสารเพื่อนรักสัตว์เลี้ยงฉบับหน้าปกอาทิตย์ ริว มาเป็น reference กันลืม...พอเจอตัว สงสัยว่าหนังสือมันหดเพราะเก็บใส่กระเป๋ามานานหรืออย่างไร นายเอกที่ครั้งนึงเคยเป็นเดือนมหาลัย ในวันนี้กลายเป็น(ไส้)เดือนอวบระยะสุดท้าย ข้างๆเอกคือนิ สาวเสียงแหบมาดเท่ นิกับผมไม่รู้จักกันมาก่อน... จะว่าไปเอกกับผมก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน

สามเดือนที่แล้ว ผมกัดฟันลิ้นพันเหงือกเดินไปหาคุณชายนายวู้ดดี้(นามสมมุติ--เจ้านาย)พร้อมจดหมายลาออกใบที่สี่ ตลอดสามครั้งที่ผ่านมา ผมเดินออกมาพร้อมเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นครั้งละพันเสมอ แต่ครั้งนี้ ไฟในการทำงานมันยิ่งกว่าภูเขาไฟดับสนิทเขาอังคาร แถวพนมรุ้ง คือมันมอดไปหมด...จำได้ว่าครั้งนึงผมเคยสนุกกับการทำรายการทีวี นอนลังกาหลังซัมเมอร์ซอล์ทปั่นสคริประหว่างรอตัดต่อ อดหลับอดนอนได้สองวันเต็มๆ ที่ทำได้ขนาดนั้นไม่ใช่เพราะว่าเคยเป็นยามหรือคนขับสิบล้อมาก่อน แต่เพราะอยากเห็นผลงานของตัวเองออกฉายในทีวี...แต่หลังจากที่ต้องทำงานหกวันต่ออาทิตย์ ติดต่อกันถึงสิบเดือน ผมต้องยกธงขาวยอมแพ้ คนนะครับ ไม่ใช่เซเว่น

คราวนี้ ผมเดินจากห้องของเจ้านายพร้อมรอยยิ้ม แปลกที่ในครั้งก่อนๆ เงินหนึ่งพันไม่เคยซื้อรอยยิ้มให้กับผมได้ จะได้ก็แต่กระทิงแดงสี่ห้าโหลไว้กินต่อเดือน...สะบัดตูดออกจาก W Networks (นามสมมุติ) ผมไม่รอช้า รีบเผ่นกลับบ้านเปิดเน็ท ดูคลิปแอนนา...ไม่ใช่ล่ะ...เปิดเน็ทหาที่เรียนต่อตะหาก ใช้เวลาไม่นาน อาศัยตัดตัวเลือกจนในที่สุดก็เหลือสองที่ ที่แรกชื่อ Savannah College of Art and Design อยู่ในรัฐจอร์เจียที่แลจะไม่จอแจเอาซะเลย ที่ที่สองชื่อ Academy of Art University อยู่ในซานฟราน

หลักการเลือกที่เรียนของผมง่ายมากครับ ดูที่สาขา ว่ากันว่าถ้าจะจดทะเบียนให้ไปสาขาบางรัก แต่ถ้าอยากเลิกก้อนี่เลย บางพลัด...แหะๆคนมันคึกจากฤทธิ์กระทิงแดงง่ะ อ่ะต่อครับต่อ ผมจบตรีเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ หรือ BE ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.07 ผมไม่ใช่คนโง่ (แต่ก้อไม่ฉลาด) ตอนนั้นผมเลือกเรียน BE เพราะที่นั่นสอนเป็นภาษาอังกฤษ และผมเองเพิ่งกลับจากไปเรียนแลกเปลี่ยนที่แคลิฟอร์เนีย อยากเป็นเด็กนอกให้ถึงที่สุดว่างั้น ทั้งๆที่อีกตัวเลือกจากการสอบเอนทรานซ์คือความฝันของผม สถาปัตฯ ลาดกระบัง สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ไม่ได้นะ แต่ได้แล้วไม่เอา...

เชื่อรึยังว่าผมไม่ใช่คนโง่!

ระหว่างนั้นก็บวกลบคูณหารเหตุผลอาเพทร้อยแปดครับ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความสะดวกในการเดินทาง แฟนที่เรียนจุฬา คุณพ่อที่ชิลๆ คุณแม่ที่อยากให้เรียนด้านธุรกิจ ลามปามไปถึงพื่อนเก่าที่เซนต์ ทีี่ไปได้สวยจากการเรียนเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์...คือ ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึงครับว่า ถ้าอยากเรียนด้านเศรษฐฯละก้อ ธรรมศาสตร์จัดว่ามีชื่อไม่แพ้จุฬา ยิ่งนาทีนั้นภาคภาษาอังกฤษเพิ่งเปิด ของผมเป็นรุ่นที่สาม ได้โอกาสวัดดวง คิดในใจว่า เผื่อวันหน้าวันหลังคณะนี้ดังเป็นพลุแตก ผมอาจจะได้อานิสงไปด้วย

เด็กๆผมชอบคิดชอบฝัน อยากเป็น อยากทำหลายๆอย่าง วาดรูปมันของถนัดอยู่แล้ว แต่วิชาด้านธุรกิจไม่เคยรู้ ถ้าได้ฝึกฝนก็น่าจะช่วยให้ผมรอบคอบขึ้น ไม่ถูกใครเอาเปรียบได้ง่ายๆ... แล้วผมก็กลายเป็น"เป็ด"ครับ

มาถึงตรงนี้ ต้องเลือกที่เรียนต่อ จะพลาดซ้ำสองคงไม่เหมาะ ผมคงต้องเลิกหลอกตัวเอง... เป็ดมันว่ายน้ำไม่เก่ง บินก็ไม่เก่ง ขืนเป็นเป็ดต่อไปคงได้จมน้ำ ไม่ก็ร่วงจากฟ้าตายแหงม... ตั้งแต่จบมา ผมสะสมชั่วโมงการทำงานกว่าห้าปี ทั้งในวงการโฆษณาและทีวี มากพอที่จะรู้ว่าผมอยากเป็นอะไร อะไรที่ว่าไม่ใช่เป็ด แต่เป็นนักเล่าเรื่องตะหาก ในที่สุด ผมก็เลือกเรียนสาขาภาพยนตร์ อาศัยค้นเอาทางเน็ท พูดคุยกับรุ่นพี่คนนู้นคนนี้ ปรากฏว่าเจอกับข้อจำกัดเยอะเหมือนกัน ไหนจะเงิน ไหนจะ requirement ของแต่ละมหาลัย บางที่ต้องการวุฒิตรีในสาขาเดียวกัน บางที่ต้องการผลสอบโทเฟล...จากตัวเลือกเป็นสิบ ตัดไปตัดมาเหลือสองตัวสุดท้าย จากนั้นไปต่อไม่ยากเลย อย่างที่เคยเกริ่นให้ฟังครับ ผมเคยมาเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองเล็กๆขื่อ Salinas อยู่ใต้ซานฟรานประมาณสองชั่วโมงขับรถ ตลอดสิบเอ็ดเดือนของชีวิตเด็กบ้านนอก การได้เข้าเมืองใหญ่อย่างซานฟรานทำให้ผมมีความสุขเสมอ

และในที่สุด ผมก็กลับมาอีกครั้ง

2 Comments:

Anonymous Anonymous said...

นายนี่เอง เพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่เคยปรากฎกาย..

7:26 AM  
Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

8:40 AM  

Post a Comment

<< Home