Friday, January 30, 2009

HSH: Home Sweet Home...or How 2 Select a Home?

เคยนึกมาตลอดว่าบ้านในอเมริกาจะต้องเป็นแบบ หลังคาสูงๆ กว้างโล่ง ข้างฝาน้อยๆ
เหมือนบ้านพระเอกในหนังเรื่อง Big Daddy (1999)
บ้านสองชู้ใน Addicted To Love (1997)
หรือบ้านรักสามเส้าใน Two Girls And A Guy (1997)...


เค้ามีศัพท์เฉพาะด้วยนะ เรียกว่า Loft

Loft mainly refers to two different types of rooms. It typically refers to an upper story or attic in a building, directly under the roof. Alternatively, it can refer to a loft apartment which is a large adaptable open space either created or converted for residential use. (ข้อมูลจากเวปวิกิพีเดีย http://en.wikipedia.org/wiki/Loft)

ไม่ใช่ถูกๆนะครับ โดยเฉพาะในซานฟรานฯที่จัดว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ (อันดับ 1 อมตะถาวรตลอดการคือ the big apple หรือ New York ครับ) ค่าเช่าลอฟท์ในตัวเมืองซานฟรานน่าจะสูงถึงประมาณ 3-4 พันเหรียญต่อเดือน

ไม่มีปัญญาจ่ายอย่างแน่นอน ต่อให้เดินขายตูดแถวย่าน Castro (ถนนศูนย์กลางกระเทยเลื่องชื่อของซานฟรานฯ) คงต้องขายกันจนตูดแหกตูดบาน อึไม่ต้องเบ่งไปหลายเดือน...

ตั้งแต่รู้ว่าได้เรียนที่ Academy of Art แบบแช่แป้งแล้ว ผมเผลอจองบ้านพักของโรงเรียน หรือที่เรียกว่า Dormitory สั้นๆว่าดอม เหตุเพราะไม่มีคนรู้จัก ไม่มีข้อมูล ...และนั่นคือก่อนที่จะได้ข่าวของเพื่อนเอก... ค่าดอมของ AAU ช่วงปี 2005 ตกอยู่ที่ 5,000-6,000 ต่อเทอม (semester) หนึ่งเทอมคือ 4 เดือน ส่วนประเภทห้องของดอมก็มีให้เลือกอีก ว่าอยากอยู่เดี่ยว อยู่รวม ห้องน้ำส่วนตัว มีโต๊ะพูล โต๊ะปิงปองในตึก ต่างต่างนานา ซึ่งค่าเช่าก็แปรผันตรงกับความสะดวกที่ได้รับ

แต่ขอบอกครับ ครั้งที่ผมจองดอมไปคราวนั้นถึงกับงง ...เรื่องของเรื่องคือ ไอ่ AAU เนี่ย มันคือ"มหาลัยตึกแถว"ตัวจริงเสียงจริงเลย เพราะแม้ว่าซานฟรานฯจะเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองสำคัญ แต่อย่าเผลอจินตนาการเชียวครับ ว่าจะมีมหาลัยขนาดใหญ่กั้นรั้วยาวเป็นไร่ๆ (ใกล้สุดที่เห็นมีสองที่คือ University of San Francisco และ San Francisco State University ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในเขตตัวเมือง) น่าแปลกที่มหาลัยเอกชนในซานฟรานฯส่วนใหญ่ยึดทำเล downtown เป็นที่ทำมาหากิน จะว่าสะดวกกับนักเรียนมั้ย?...ไม่เลยครับ คือที่ในตัวเมืองมันถูกจับจองไปหมดแล้ว จะหาตึกยาวติดๆกันมันไม่มี เลยต้องอาศัยซื้อตึกเล็กตึกน้อยกระจายกันไป ส่วนไอ่นักเรียน AAU น่ะหรอ

เรียนจบคาบนึงก้อขึ้นรถโรงเรียนไปต่ออีกคาบอีกตึกนู่นครับ!!

ถ้าเปิดดูแผนที่ของตึก AAU ในตัวเมืองซานฟรานฯ คุณจะพบเลยว่า ตึกเรียนมันแพร่ระบาดไปทุกมุมเมืองเหมือนเซเว่นอีเลฟเว่นฉันใดก็ฉันนั้น ยิ่งผนวกเข้ากับดอมอีกเกือบยี่สิบแห่งด้วยแล้วเนี่ย ผมว่าทัวร์จีนคงมีงง ต้องขอแวะถ่ายรูปกันแหล่ะครับ เพราะขับไปถนนไหนก้อเจอแต่ป้ายแดงดำมหัศจรรย์ที่ว่า แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าทัวร์จีนโดนหลอก คือไอ่ดอมของ AAU บางแห่งเนี่ย มันคือห้องพักโรงแรมถูกๆครับ!! เรื่องของเรื่องคือจำนวนนักเรียนมันเยอะเกินกว่าที่โรงเรียนจะไปกว้านซื้อตึกได้ทัน ก็เลยอาศัยทางลัด เปิดห้องในโรงแรมให้เช่าซะเลย

พูดถึงโรงแรม ผมมารู้เอาทีหลังว่าคนไทยหลายคนอาศัยพักแบบเหมาเดือนที่โรงแรมชื่อ Grant Hotel...ถ้าเข้าใจไม่ผิด เจ้าของโรงแรมแห่งนี้เป็นคนไทยครับ แกเลยยินดีช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติด้วยกันในสนนราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

อีกแห่งที่คนไทยเข้าออกเป็นว่าเล่นคือ"ตึกอร่อย"ครับ ที่เรียกเช่นนี้เพราะตึกมันอยู่ชั้นบนของร้านไทยชื่อ"ร้านอร่อย" ซึ่งทำเลจัดว่าดีเลยทีเดียว...ราคาค่าห้องก็แล้วแต่ล่ะครับ ว่าอยากพักแบบไหน ห้องสตูดิโอ (ห้องกว้างๆห้องเดียว) ห้องแบบวันเบด (One Bedroom คือมีห้องนั่งเล่น และห้องนอนแยกจากกันเป็นสัดส่วน) หรือทูเบด (Two Bedrooms) หรืออินลอว์ (In-Law หมายถึงพักตามบ้านที่มีเจ้าของบ้าน ที่เราเรียกกันว่าแลนลอร์ด/Landlord อยู่ร่วมชายคาด้วย ส่วนใหญ่อินลอว์จะอยู่นอกเมืองครับ) จะว่าไป ทำเลเนี่ยมีผลโดยตรงกับค่าเช่าเลย อยู่กลางเมืองก็ฟันธงได้ว่าเป็นพันแน่นอน เพราะถ้าต่ำกว่านั้นให้พึงระวังว่าจะได้พักในย่านที่ไม่ดี...ถ้าเงินไม่ถึงขอแนะนำให้เขยิบออกไปในเขตปริมณฑล หรือหารูมเมทครับ

ไม่ต่างอะไรกับการเลือกดอมครับ ตาดีได้ตาร้ายเสีย...ดูกันให้ดีๆให้รอบคอบ ทั้งเรื่องการเดินทาง ห้องน้ำ ห้องครัว ซักรีด ที่จอดรถ รูมเมท ฯลฯ ทำการบ้านไว้แต่เนิ่นๆครับ เวปไซต์เครกส์ลิสต์ช่วยชีวิตหลายต่อหลายคนมาแล้ว (http://sfbay.craigslist.org/hhh/) เพราะส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ไหนจะจับเราเซ็นต์สัญญาก่อนเข้าพัก กำหนดสัญญาทั่วไปก็บังคับอยู่ที่ 1 ปี พร้อมเก็บค่าเดโพสิต (Deposit ว่ากันง่ายๆก็เหมือนค่าประกันแหล่ะครับ) โดยมากในเดือนแรกเจ้าของห้องเช่าจะบังคับจ่ายสองเท่าเสมอ เพื่อหักส่วนหนึ่งเก็บไว้ กรณีผู้พักเกิดเปลี่ยนใจย้ายออกก่อนกำหนด หรือทำห้องชำรุด เจ้าของห้องเช่าก็มีสิทธิ์ยึดเงินประกันส่วนนี้ได้ ไม่ผิดอะไร

โชคดีของผมที่ได้ข่าวเรื่องเพื่อนเอกก่อน เลยอีเมลล์ไปยกเลิกดอมที่ AAU ได้ทัน...อย่างน้อยก็ต้องยกความดีความชอบให้คนอเมริกันอย่างนึงล่ะครับ คือถ้าไม่ชอบยินดีคืนเงิน!! อันนี้ใช้ได้กับสินค้าทั่วไปด้วยครับ ไม่ใช่ดอมเพียงอย่างเดียว เคยได้ยินเพื่อนของเพื่อนซื้อคอมพ์ไปใช้ จบสามเดือนเอาไปรีเทิร์นยังได้เงินคืนครบ...มีอีกกรณีศึกษาเรื่องนี้ หนังเรื่อง My Date With Drew (2004) ซื้อกล้องจากร้าน Circuit City ถ่ายทำหนังยาวทั้งเรื่องภายในกำหนดคืนกล้องคือ 30 วัน ทำเอาร้านค้าต่างๆต้องหันมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การคืนสินค้า ลดจำนวนวันทดลองใช้ให้สั้นลงเกือบครึ่ง

.... .... .... .... .... .... .... ....

บ้าน 179 Nagle เป็นบ้านสองชั้นเก่าๆหน้าตาไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่ เป็นเหมือนทาว์นเฮาส์ขนาดย่อมๆเรียงติดกันร่วมสิบกว่าหลังคาเรือน คนส่วนใหญ่ในย่านนี้เป็นคนจีน รถจอดกันริมทางเท้า...ดูยังไงก็ห่างไกลความเป็นลอฟท์ในฝันหลายช่วงตัว

ไม่ต่างอะไรกับการเลือกแฟนครับ อย่าวัดกันที่รูปลักษณ์ภายนอก...ข้างในสำคัญกว่า
โดยเฉพาะเรื่องของ รูมเมท!!


3 Comments:

Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความ

7:57 AM  
Anonymous Anonymous said...

เรื่องบ้านนี่เมาท์แตกได้อีกหลายเลย..

แต่ไอ้ดอมของโรงเรียนน่ะ คิดแพงกว่าไปอยู่เองคนเดียวอีก

2:38 PM  
Anonymous Anonymous said...

มีเบอร์ของตึกอร่อยไหมคะ

1:34 PM  

Post a Comment

<< Home